นอนไม่หลับเป็นอาการที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยมีผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับมากกว่า 30% ของประชากรทั่วโลก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจของผู้ป่วย โดยมีอาการที่พบได้บ่อย เช่น นอนไม่หลับ นอนกรน ตื่นกลางดึก ตื่นมาเหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง และอาจส่งผลต่อการทำงาน การเรียน และการใช้ชีวิตประจำวัน
การนอนไม่หลับเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน และผู้สูงอายุ อันมาจากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคหัวใจ โรคทางสมอง หรือเป็นผลมาจากพฤติกรรม เช่น ผลจากการทานอาหารหนัก การดื่มเครื่องดื่มที่มีสารกระตุ้นการตื่น หรือการใช้สมุนไพรบางชนิดที่มีสารกระตุ้นการตื่น
ดังนั้นการรับประทานอาหารและการดื่มเครื่องดื่มให้เหมาะสม รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนอย่างเหมาะสม สามารถช่วยลดอาการนอนไม่หลับได้โดยมีผลดีต่อสุขภาพของผู้ป่วย
การนอนไม่หลับอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจ โดยจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีความสดชื่น และมีผลต่อการทำงานและการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลในบางคน จึงต้องรักษาโรคนี้โดยเร็วเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจของผู้ป่วย
การรักษาโรคนอนไม่หลับจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุของโรค โดยสามารถรักษาโดยใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน การออกกำลังกาย การใช้ยาช่วยนอน และการฝึกสมาธิ เพื่อช่วยลดอาการนอนไม่หลับให้เกิดขึ้นน้อยลง และป้องกันการกลับมาเกิดอีกครั้งในอนาคต
สาเหตุของอาการ “นอนไม่หลับ”
นอนไม่หลับ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยที่สุดในปัจจุบัน และสามารถเกิดขึ้นกับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้โดยตรง
สาเหตุของนอนไม่หลับอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล การเปลี่ยนแปลงของระบบการทำงานของร่างกาย การทานอาหารที่ไม่เหมาะสมก่อนนอน การดื่มเครื่องดื่มที่มีกาแฟหรือสารกระตุ้น การนอนในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิห้องนอนไม่เหมาะสม และการใช้เทคโนโลยีที่มีแสงส่องสว่างสูงก่อนนอน
นอนไม่หลับยังสามารถเกิดขึ้นจากภาวะโรคหรืออาการอื่นๆ เช่น ภาวะโรคซึมเศร้า โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และการรักษาด้วยยาบางชนิดที่อาจมีผลกระทบต่อการหลับ
การรับประทานยาหลายชนิดอาจเป็นสาเหตุของนอนไม่หลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่เป็นยานอนหลับ ยาแก้ปวด และยาแก้ปวดเม็ดใหญ่
นอนไม่หลับยังเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ซึ่งสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการแก่ของอวัยวะต่างๆ และการใช้ยาสำหรับรักษาโรคต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อการหลับของผู้สูงอายุ
นอนไม่หลับเป็นอาการที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุสำคัญของโรคนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้
1.ปัจจัยทางสุขภาพ
- ภาวะเจ็บป่วยชั่วคราว เป็นอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีอาการเป็นครั้งคราว เช่น ปวดหลัง ปวดขา ปวดเข่า จากพฤติกรรม หรือ อาการมีไข้ คัดจมูก หายใจหอบถี่ รบกวนการนอนหลับ
- โรคทางกาย ส่งผลให้ร่างกายทำงานได้ไม่ปกติ ส่งผลโดยตรงตาอการนอน โรคที่พบได้มากอย่าง โรคเบาหวาน ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ทำให้ร่างกายต้องพยายามขับน้ำตาลออกจากร่างกายด้วยกระบวนการต่าง ๆ โดยเฉพาะปัสสาวะ ที่นบกวนการนอน ทำให้ต้องตื่นมากลางดึกเป็นประจำ เกิดเป็นพฤติกรรมคุ้นชินที่ทำร้ายสุขภาพในระยะยาว หรือโรคอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจที่มีอาการเจ็บหน้าอก หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ทำให้นอนไม่หลับ และยังมีโรคทางกายอีกมากมายที่ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้นอนหลับยากกว่าคนปกติ
- โรคทางใจ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นอนไม่หลับ เช่น โรคซึมเศร้า ที่มีผลกับฮอร์โมนความสุข ที่ควบคุมการนอนหลับ และการใช้ชีวิต รวมไปถึงภาวะความเครียดสะสม จากเหตุการณ์เลวร้ายที่เจอเป็นประจำ ทำให้ของเสียในสมองสะสมมากกว่าปกติ จึงกระทบกับการหลั่งของฮอร์โมนสำคัญที่ทำให้ง่วง
2. ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม
- สถานที่ไม่คุ้นชิน นอนผิดที่ รู้สึกไม่สบายใจ กระสับกระส่ายเป็นกังวล
- อุณหภูมิ ร้อน หรือ หนาว เกินไป ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่ไม่สบายเนื้อสบายตัว เช่น เหงื่อออก ผิวแห้ง มือเท้าชา จนทำให้นอนไม่หลับ
- เสียงรบกวน ที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เสียงสัตว์เลี้ยง เสียงเพื่อนบ้าน เสียงรถบนถนน รวมถึงเสียงของคู่นอน เช่น เสียงกรน
3. ปัจจัยทางพฤติกรรม
- เล่นมือถือก่อนนอน ทำให้ตาได้รับแสงสีฟ้าจากจออุปกรณ์ ทำให้สมองหลั่งเมลาโทนินได้น้อยลง เพราะคิดว่าเป็นแสงตอนกลางวันจากพระอาทิตย์ เป็นสาเหตุหลักของการนอนไม่หลับที่พบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
- ออกกำลังกายยามดึก การออกกำลังกายโดยการใช้กล้ามเนื้ออย่างหนัก ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว เป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงกระทำก่อนนอน อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
เครียดนอนไม่หลับ วิธีแก้
ความเครียดอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีภาวะเครียดเพิ่มขึ้น เช่น การเริ่มงานใหม่ การมีปัญหาในครอบครัว หรือเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เป็นต้น
วิธีแก้ปัญหานี้ คือ การลดความเครียด โดยใช้วิธีต่างๆ ได้แก่
- การออกกำลังกาย : การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพการนอน โดยเฉพาะการออกกำลังกายในช่วงเย็นหรือก่อนนอน จะช่วยลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพการนอนได้มากยิ่งขึ้น
- การหายใจลึก : การหายใจลึกช่วยลดความเครียดและเพิ่มความผ่อนคลาย โดยให้หายใจลึกๆ จนกระทั่งท้องขยับเบาๆ แล้วค่อยๆ หายใจออก
- การฝึกสมาธิ : การฝึกสมาธิช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสงบในจิตใจ โดยเริ่มต้นด้วยการนั่งสบายๆ แล้วเน้นไปยังการหายใจลึกๆ และควบคุมความคิดให้เป็นจิตใจสงบ
- การใช้เทคนิคการผ่อนคลาย : การใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การนวด การจับกล้ามเนื้อและคลายเพิ่มความผ่อนคลาย จะช่วยลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพการนอนได้
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน : การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน เช่น การเปลี่ยนเวลานอนหลับ การลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟหรือน้ำชา การเปลี่ยนเตียงนอน หรือการใช้หมอนที่เหมาะสม เป็นต้น จะช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนและ
อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับยังไม่สามารถหลับได้หลังจากลดความเครียด อาจต้องพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมและการรักษาที่เหมาะสม
ทำไมง่วง แต่นอนไม่หลับ?
การที่เราง่วงแต่ไม่สามารถหลับได้อาจเกิดจากการมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆในชีวิต หรือความเครียดจากการทำงานหรือการศึกษา การใช้เวลาเล่นสมาร์ทโฟนหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ก่อนนอนอาจทำให้เกิดความตึงเครียดและทำให้เราไม่สามารถหลับได้
ในวัยทำงาน มีสภาวะผิดปกติทางจิตที่เรียกว่า “Revenge Bedtime Procrastination” คือการไม่นอน เพื่อล้างแค้น ช่วงเวลากลางวันที่ไม่ได้ใช้ชีวิตส่วนตัว จึงต้องยอมเสียเวลานอนในตอนดึก เพื่อใช้ชีวิตทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ในตอนกลางคืน ทำให้เวลานอนน้อยลง นอนดึก ตื่นเช้า วนซ้ำแบบนี้จนเกิดเป็นความคุ้นชินที่ทำให้เสียสุขภาพ ถึงแม้ร่างกายจะง่วงแค่ไหน แต่ใจยังไม่อยากนอน เป็นภาวะทางจิตที่ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เอาชนะ อาการนอนไม่หลับ
มีหลายวิธีที่ช่วยให้ผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับสามารถเอาชนะได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือการรักษาทางการแพทย์ ต่อไปนี้คือวิธีการที่เป็นประโยชน์ในการช่วยเอาชนะอาการนอนไม่หลับ
- การรักษาโดยใช้วิธีการพึ่งตนเอง (self-help) : ผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับควรลองปรับพฤติกรรมการนอนหลับของตนเอง เช่น ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาแฟหรือน้ำชา หรือลดการใช้สมองเสริมก่อนการนอน อีกทั้งยังสามารถใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การฝึกโยคะ หรือการฟังเพลงที่ช่วยผ่อนคลายใจได้
- การใช้เทคนิคการควบคุมการหายใจ (breathing techniques) : เทคนิคการหายใจช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น การหายใจลึกๆและช้าๆ หรือการใช้เทคนิคการหายใจชนิดอื่นๆ อาจช่วยลดความเครียดและช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับได้ง่ายขึ้น
- การใช้เทคนิคการควบคุมความคิด (cognitive techniques) : เทคนิคนี้เน้นไปที่การควบคุมความคิดและการเตรียมตัวก่อนการนอนหลับ ฝึกทำสมาธิควบคุมจิตใจ สามารถช่วยฝึกสมอง จัดการความคิดที่ฟุ้งซ่าน หรือการฝึกการสร้างภาพจินตนาการที่ช่วยผ่อนคลายใจได้
แก้อาการนอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก
การตื่นกลางดึกเกิดได้จากความผิดปกติในร่างกายเป็นหลัก เช่น สภาวะความเครียดสะสมที่รบกวนการหลั่งของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ฮอร์โมนเมลาโทนิน ที่หลั่งได้น้อย ทำให้ร่างกายรักษาระดับความง่วงไม่ได้ ทำให้อยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น
เมื่อถูกกระตุ้นด้วยสภาพแวดล้อม เช่น เสียง แสง กลิ่น เพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ตื่นกลางดึกง่ายกว่าคนปกติ หรือสภาวะผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน ที่ต้องตื่นเข้าห้องน้ำกลางดึกเป็นประจำ ก็ทำให้เกิดพฤติกรรมตื่นกลางดึกได้
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับสามารถทำได้หลายวิธี อาทิเช่น การเปลี่ยนแปลงเวลาการนอนหลับ การปรับเปลี่ยนตำแหน่งการนอนหลับ หรือการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในห้องนอน เช่น การปรับแสงไฟ การปรับอุณหภูมิห้อง ฯลฯ
นอกจากนี้ การออกกำลังกายและการบริหารจิตใจก่อนการนอนหลับยังเป็นวิธีที่ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับได้ดีอีกวิธีหนึ่ง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ และช่วยเสริมสร้างสุขภาพทั้งกายและจิตใจของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยสมอง สร้าง “เมลาโทนิน”
เมลาโทนิน ฮอร์โมนแห่งการหลับใหล เมื่อมนุษย์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอนหลับ การเข้าสู่โหมดพักผ่อนจะถูกเริ่มด้วยฮอร์โมนเมลาโทนิน ที่สมองจะสั่งให้หลั่งต่อเมื่อสภาวะแวดล้อมรอบตัวเหมาะสม ทำให้รู้สึกง่วง และเข้าสู่ภวังค์แห่งการหลับใหล รวมถึงรักษาระดับความง่วง ทำให้หลับสนิทได้ตลอดทั้งคืน
การใช้สมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเมลาโทนิน อย่าง “เชอร์รี่ทาร์ต” ที่ได้รับการรับรองว่าช่วยลดอาการวิตกกังวล กระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสบายใจ รวมถึงกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนแห่งการหลับใหลอย่าง “เมลาโทนิน” ซึ่งดีกว่าการใช้อาหารเสริมที่เป็นเมลาโทนินสังเคราะห์ เสี่ยงให้เกิดโอกาสสะสมของเสียในสมอง การใช้สมุนไพรเชอร์รีทาร์ตจึงดีและปลอดภัยกว่า
หนึ่งในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเชอร์รี่ทาร์ต และการนอนหลับ คือ งานวิจัยที่มีชื่อว่า “Effect of a Tart Cherry Juice Beverage on the Sleep of Older Adults With Insomnia: A Pilot Study” โดยมีผู้วิจัยคือ Xuewen Wang, MD, PhD, FACP, FAASM, David R. Samuels, MD, PhD, FAAN, FAASM, and Wilfred R. Pigeon, PhD, FAASM ผลการวิจัยพบว่า การดื่มเชอร์รี่ทาร์ตช่วยลดอาการนอนไม่หลับและช่วยให้ผู้ใช้งานหลับสนิทยามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการนอนหลับ
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเชอร์รี่ทาร์ต และการนอนหลับ เช่น “Tart cherry juice increases sleep time in older adults with insomnia” โดยมีผู้วิจัยคือ Pigeon WR, Carr M, Gorman C, Perlis ML ผลการวิจัยพบว่าการดื่มเชอร์รี่ทาร์ตช่วยเพิ่มเวลาการนอนหลับในผู้สูงอายุที่มีปัญหาการนอนหลับ
การนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพที่ดี แต่บางครั้งการนอนหลับอาจเป็นเรื่องที่ยากเย็น โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่หล่อน เชอร์รี่ทาร์ตเป็นผลไม้ที่ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น โดยเชอร์รี่ทาร์ตมีสารที่ช่วยสร้างเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและหลับสนิทขึ้น
พิเศษ!! สำหรับลูกค้าใหม่ รับโค้ดส่วนลด 50 บาท ที่หน้าร้าน Shopee และ Lazada
อาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
กระสับกระส่ายเป็นอาการที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว รู้สึกร้อนเนื้อร้อนใจ ในบางรายอาจมีอาการหูแว่ว ได้ยินเสียงที่ไม่เคยได้ยิน หรือมีความอ่อนไหวต่อสัมผัสของสภาพแวดล้อม ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะกับผู้ที่มีวิถีชีวิตที่ไม่สมดุล เช่น การทำงานเยอะเกินไป การนอนไม่เพียงพอ การกินอาหารไม่เหมาะสม และอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยได้
การวินิจฉัยอาการนอนไม่หลับเป็นการทำงานที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพราะอาการนอนไม่หลับสามารถมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางสุขภาพ จิตสำหรับ หรือสภาพแวดล้อม
สมองตื่นตัว นอนไม่หลับ
การนอนไม่หลับเป็นสถานการณ์ที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุหลักๆ คือสมองตื่นตัวในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยต้องการหลับ ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล หรือการดื่มกาแฟหรือน้ำชาก่อนนอน
การตื่นตัวของสมองเป็นผลมาจากการปลดปล่อยสารสื่อประสาทต่างๆ ในสมอง เช่น orexin, acetylcholine, norepinephrine, serotonin, และ histamine ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีความสัมพันธ์กับการตื่นตัวและการหลับ ดังนั้น การใช้ยาที่เป็น dual orexin receptor antagonists เช่น Suvorexant และ Lemborexant อาจช่วยลดการตื่นตัวและเพิ่มคุณภาพการนอนหลับในผู้ป่วยที่มีปัญหานอนไม่หลับได้
นอกจากนี้ การนวดกดจุดฝ่าเท้าอาจช่วยกระตุ้นสมองให้ผ่อนคลายและลดความเครียด ซึ่งอาจช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับในผู้สูงอายุที่มีปัญหานอนไม่หลับได้
Footnotes
- Daridorexant: ทางเลือกใหม่สำหรับโรคนอนไม่หลับ. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJHP/article/view/259706 ↩
- ผลของการนวดกดจุดฝ่าเท้าต่อคุณภาพการนอนในผู้สูงอายุที่มีภาวะนอนไม่หลับ. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RNJ/article/view/9136 ↩
นอนไม่หลับ สมองไม่หยุดคิด
ต้นเหตุของอาการ “สมองไม่หยุดคิด” มักเกิดจากความเครียดจากการทำงานหนักหรือการมีปัญหาในชีวิตส่วนตัว หากไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะโรคทางจิตเวชได้ เช่น ซึมเศร้า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง ทำให้เกิดอาการหดหู่ ไม่สนใจอาหาร หรือไม่สนใจเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนมีการนอนไม่หลับ
อาหารเสริม สูตรเภสัช “สำหรับคนนอนไม่หลับ” โดยเฉพาะ
มัดรวมสมุนไพรแห่งการนอน
- เชอร์รีทาร์ต ในดีไนซ์ ที่เด่นเรื่องกระตุ้นการสร้างเมลาโทนิน ป้องกันสภาวะ Oxidative stress ที่รบกวนการนอน
- คาโมไมล์ มีสารอะพิจินีนช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย คลายเครียด
- ทอรีน ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนขณะหลับ ทําให้หลับสนิท
- สารสกัดพริกไทยดํา ลดการถูกทําลายของเซลล์สื่อประสาท ลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือด
- พรมมิ ทําให้สารสื่อประสาททํางานได้ดีขึ้น รักษาระดับอารมณ์ให้คงที่
- โคลีน แอล-ไบทาเทรต ช่วยทําให้ระบบประสาททํางานได้ดีขึ้น ระดับอารมณ์คงที่
- สารสกัดสะระแหน่ฝรั่ง ช่วยป้องกันภาวะผิดปกติทางจิต มักใช้รักษาในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ และผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
- สารสกัดจากกระชายดํา มีฤทธิ์ยับยั้ง Phosphodiesterase ทําให้กล้ามเนื้อหลอดเลือดคลายตัว เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- สารสกัดใบแป๊ะก๊วย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด สมองปลอดโปร่ง
ปรึกษาปัญหาการนอนฟรี!
-
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 10 แคปซูล
350 ฿Original price was: 350 ฿.290 ฿Current price is: 290 ฿. -
ฺBiotine X1 ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
690 ฿Original price was: 690 ฿.490 ฿Current price is: 490 ฿. -
ฺBiotine X2 ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
690 ฿Original price was: 690 ฿.490 ฿Current price is: 490 ฿. -
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
750 ฿Original price was: 750 ฿.590 ฿Current price is: 590 ฿. -
GLUCON สมุนไพรรวม ต้านเบาหวาน ขนาด 60 แคปซูล
820 ฿Original price was: 820 ฿.650 ฿Current price is: 650 ฿. -
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล + 10 แคปซูล
1,280 ฿Original price was: 1,280 ฿.745 ฿Current price is: 745 ฿. -
ฺBiotine X1 ขนาดบรรจุ 60 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
1,380 ฿Original price was: 1,380 ฿.890 ฿Current price is: 890 ฿. -
ฺBiotine X2 ขนาดบรรจุ 60 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
1,380 ฿Original price was: 1,380 ฿.890 ฿Current price is: 890 ฿. -
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 60 แคปซูล
1,500 ฿Original price was: 1,500 ฿.1,060 ฿Current price is: 1,060 ฿. -
GLUCON สมุนไพรรวม ต้านเบาหวาน ขนาด 120 แคปซูล
1,640 ฿Original price was: 1,640 ฿.1,220 ฿Current price is: 1,220 ฿. -
ฺBiotine X1 ขนาดบรรจุ 120 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
2,760 ฿Original price was: 2,760 ฿.1,490 ฿Current price is: 1,490 ฿. -
ฺBiotine X2 ขนาดบรรจุ 120 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
2,760 ฿Original price was: 2,760 ฿.1,490 ฿Current price is: 1,490 ฿.