ทำไมคนเราต้องโหยหา “ยานอนหลับ”
ใครที่เคยนอนไม่หลับจะรู้ดีว่า มันทรมานมาก ยิ่งต้องทำงานหนักแล้วมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับร่วมด้วย ส่งผลต่อร่างกาย และอันตรายถึงชีวิตได้เลย หลายคนเมื่อมีอาการนอนไม่หลับ จึงมักจะนึกถึง ยานอนหลับเป็นอันดับแรก
แต่รู้ไหม การใช้ยานอนหลับเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น!!!
อาการนอนไม่หลับ (Insomnia)
เป็นปัญหาที่สามารถพบได้ทุกเพศ ทุกวัย จากการศึกษาข้อมูลพบว่า ปัญหาการนอนไม่หลับสามารถเกิดได้ร้อยละ 30-35 ของผู้ใหญ่วัยกลางคน แต่มักจะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยด้านจิตใจ เช่น เป็นโรคซึมเศร้า เคยประสบอุบัติเหตุหนัก
หากปล่อยให้ตัวเองมีอาการนอนไม่หลับติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง และยังมี อันตรายจากการนอนไม่หลับ มากกว่าที่คิด การใช้ยานอนหลับจึงได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนเหล่านี้
การนอนไม่หลับนั้นมีหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
- เข้านอนแล้วหลับได้ยาก หรือก็คือ เข้านอนแล้วแต่ใช้เเวลา 45 – 60 นาทีแล้ว ก็ยังไม่สามารถหลับได้ จะถือว่าเป็นคนที่นอนหลับยาก
- เมื่อตื่นหลังจากหลับไปแล้ว จะนอนต่อไม่ได้ หรือใช้เวลานานในการกลับไปนอนหลับได้อีกครั้ง ทำให้พักผ่อนได้ไม่เพียงพอ
- หลับแล้วตื่นบ่อย มากกว่า 5 ครั้งต่อคืน ลักษณะการนอนแบบนี้จะทำให้การนอนหลับสนิทหรือหลับลึกได้น้อย ไม่เพียงพอต่อการพักผ่อน
ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับนั้นมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน มีทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ทั้งปัญหาความเครียดจากเรื่องต่าง ๆ ปัญหาการทำงานหนัก หรือการทำงานเป็นกะ, ปัญหาด้านสภาพแวดล้อม เช่น มีแสงหรือเสียงรบกวนการนอน เป็นต้น
นอกจากนี้ปัญหาด้านสุขภาพหรือการใช้ยาบางอย่างก็ส่งผลทำให้เกิดการนอนไม่หลับได้ ยกตัวอย่างเช่น ภาวะขาอยู่ไม่สุข ( Restless Legs Syndrome), โรคกรดไหลย้อน, ภาวะกังวลว่าจะนอนไม่หลับ (Psychophysiological Insomnia), การใช้ยากลุ่ม Psudoepheridrine และ Methylphenidate เป็นต้น
ยานอนหลับแต่ละประเภท ถูกใช้กับใคร?
ยานอนหลับ เป็นยาอันตรายที่ต้องถูกสั่งจ่ายโดยแพทย์ ที่ต้องเลือกยานอนหลับให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล และความเหมาะสมของโรค เพื่อกำหนดปริมาณ และชนิดของยาให้ปลอดภัยกับผู้ป่วยมากที่สุด
ประเภทของยานอนหลับ
ยานอนหลับที่ช่วยต้านภาวะซึมเศร้า
เป็นยาที่ใช้ในผู้ป่วยที่ป่วยมีภาวะผิดปกติทางอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า โรคไพโบลาร์ ซึ่งออกฤทธิ์ปรับระดับสารเคมีในสมองด้วย
ตัวอย่างเช่น
- Trazodone เป็นยาที่ช่วยกระตุ้นเซราโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุข ที่มีผลกับการนอน และอารมณ์
- Mirtazapine เป็นยาสำหรับปรับเคมีในสมอง และสมดุลทางอารมณ์ (มีผลข้างเคียงสูง)
- Amitriptyline เป็นยาที่รักษาอาการปวดจากปลายประสาท ทำให้อารมณ์สงบ
ยานอนหลับที่ออกฤทธิ์ระงับประสาท
เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System) ทำให้สมองคิดช้า รู้สึกมึนเบลอ อารมณ์สงบนิ่ง จนรู้สึกอยากหลับ เป็นกลุ่มยาที่มักใช้ในผู้ป่วยจิตเวชที่มีความผิดปกติทางอารมณ์รุนแรง ซึ่งเป็นยาอันตราย ใกล้เคียงกับยาสลบ เสี่ยงก่อให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับสูง
ตัวอย่างเช่น
- Zolpidem เป็นยากล่อมประสาท ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ผลข้างเคียงสูง
- Suvorexant เป็นยาตัวแรกในกลุ่ม orexin ที่ควบคุมการตื่นและการนอนโดยตรง ออกฤทธิ์ค่อนข้างแรง
ยานอนหลับที่ทำให้หลับลึก
เป็นกลุ่มยาที่ทำให้ร่างกายสามารถหลับได้นานที่สุด ด้วยการออกฤทธิ์แบบกล่อมประสาท ซึ่งอาจกระทบต่อการหายใจขณะหลับ และทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ขณะหลับ และขาดความทรงจำขณะหลับ ซึ่งยาจะออกฤทธิ์จนกว่าร่างกายจะขับออกได้หมด ทำให้เกิดอาการเบลอ มึน หลังตื่น
ตัวอย่างเช่น
- Temazepam เป็นยากล่อมประสาท ที่ทำให้หลับลึก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะ “เสียความทรงจำขณะหลับสูง”
- Eszopiclone เป็นยาที่ช่วยทำให้อารมณ์สงบ มักใช้ในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ
- Triazolam เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อ GABA ซึ่งมีผลต่อการนอน เป็นยาที่ค่อย ๆ ออกฤทธิ์ ทำงานต่อระบบประสาท
- Dormicum เป็นยานอนหลับที่คนส่วนมากรู้จัก ทำให้หลับลึก เป็นยาอันตรายต้องถูกสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
ยานอนหลับที่ทำให้มึนเบลอ
เป็นกลุ่มยาที่ค่อย ๆ ออกฤทธิ์ โดยจะทำให้สมองรู้สึกมึน เบลอ จะรู้สึกอยากนอน ซึ่งอาจก่อผลไม่พึงประสงค์เบากว่ายานอนหลับกลุ่มอื่น แต่ออกฤทธิ์นาน แม้ตื่นแล้วผลของยาอาจยังอยู่ ไม่เหมาะแก่การใช้หากต้องเดินทางไกล หรือต้องทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิสูง
ตัวอย่างเช่น
- Eszopiclone เป็นยาที่ช่วยทำให้อารมณ์สงบ มักใช้ในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ
- Ramelteon เป็นยาที่ออกฤทธิ์ช้า จะทำให้ร่างกายค่อย ๆ มึนเบลอ จนเผลอหลับไป
ยานอนหลับที่เสี่ยงต่อการเสพติดสูง
เป็นกลุ่มยาที่ต้องวางแผนการใช้โดยแพทย์อย่างรอบคอบ เพราะมีผลข้างเคียงสูง และเสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง และสมอง เสี่ยงต่อการเป็นโรคทางจิตเวช เป็นกลุ่มยาที่ห้ามหามาใช้เองโดยเด็ดขาด
ตัวอย่างเช่น
- Zaleplon เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว ผลตกค้างจากยาต่ำ แต่ไม่ควรใช้ต่อเนื่อง
- Zolpidem เป็นยากล่อมประสาท ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ผลข้างเคียงสูง
- Suvorexant เป็นยาตัวแรกในกลุ่ม orexin ที่ควบคุมการตื่นและการนอนโดยตรง ออกฤทธิ์ค่อนข้างแรง
- Triazolam เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อ GABA ซึ่งมีผลต่อการนอน เป็นยาที่ค่อย ๆ ออกฤทธิ์ ทำงานต่อระบบประสาท
อันตรายที่ไม่คาดคิดเมื่อเสพติด “ยานอนหลับ”
ยานอนหลับเมื่อใช้ไปนาน ๆ แล้วก็จะเกิดการดื้อยาจนต้องเพิ่มขนาดยาให้มากขึ้นเรื่อย ๆ หรือหนักกว่านั้น อาจทำให้ร่างกายคุณ เสพติดยานอนหลับ คืนไหนที่ไม่ได้ใช้ก็จะนอนหลับไม่ได้นั่นเอง
โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่ทานยานอนหลับตามคำแนะนำของแพทย์มักไม่ค่อยมีอันตรายต่อร่างกาย เพราะแพทย์จะช่วยควบคุมชนิดและปริมาณของยาตามอาการของเรา และคอยให้คำแนะนำเพื่อให้เรากลับไปนอนหลับเองได้ตามปกติ แต่ปัญหาส่วนใหญ่จะอยู่ที่คนที่ละเลยคำสั่งของแพทย์ ทานยานอนหลับตามใจตัวเอง
ยานอนหลับจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบประสาท ทำให้ร่างกายจดจำว่าต้องหลับเมื่อมีสารไปกระตุ้นเท่านั้น ซึ่งร่างกายจะจดจำกระบวนการนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากจะกลับมานอนหลับแบบปกติ ร่างกายก็จะไม่ตอบสนอง ไม่ปล่อยสารแห่งความง่วงออกมา ทำให้ไม่ง่วงนอนอีกเลย ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก ๆ
การทานยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลานาน ยังมีผลข้างเคียงทำให้เสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นโรคที่ยากต่อการรักษาให้กลับมากเป็นปกติดังเดิม
ดังนั้น ยานอนหลับ จึงเป็นยาที่ควรจัดให้โดยแพทย์ โดยพิจารณาจากสาเหตุและความรุนแรงของการนอนไม่หลับ ผู้ป่วยเองต้องรู้จักฝึกการนอนหลับด้วยตัวเอง ไม่ควรพึ่งยานอนหลับมาเกินไป และควรใช้ยานอนหลับตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หรือหากรู้สึกว่าต้องทานจริง ๆ ไม่งั้นนอนไม่หลับ อาจจะเปลี่ยนมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยเรื่องของการนอนหลับแทนการใช้ยานอนหลับที่มีฤทธิ์รุนแรงแทนก็ได้ และถ้าอยากปรับการนอนหลับแบบไม่ต้องพึ่งยา ลองดูวิธีที่เรานำมาฝากคุณต่อด้านล่างได้เลย
“ยานอนหลับ” ควรใช้ตอนไหน
การรักษาอาการนอนไม่หลับโดยการใช้ยานอนหลับ อาจไม่ใช่เรื่องผิดซะทีเดียว แต่เราต้องรู้ก่อนว่าการนอนไม่หลับขั้นไหนถึงควรใช้ยานอนหลับ บางคนเดินเข้าร้านขายยา ไปถามกับเภสัชกรว่า มียานอนหลับขายไหม ? อยากได้ยานอนหลับ ขอซื้อหน่อย เภสัชกรมักจะไม่ขายให้ อย่าไปว่าเขานะ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
ตามปกติแล้วยานอนหลับไม่ได้หาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านขายยาทั่วไป จะต้องถูกจ่ายยาโดยแพทย์ เพื่อให้ตัวยาที่จ่ายมานั้นเหมาะสมกับแต่ละบุคคล
และหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ยานอนหลับเป็นยาควบคุมพิเศษ จัดว่าเป็น วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2ที่ถูกควบคุมการนำเข้าและการจำหน่ายโดยกองควบคุมวัตถุเสพติด โดยห้ามจำหน่ายในสถานที่ขายยาแผนปัจจุบันโดยเด็ดขาด
หากต้องการยานอนหลับควรจะต้องไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรคนอนไม่หลับของเราว่าอยู่ในระดับไหน และจะได้ทำการรักษาและจ่ายยาได้ถูก
“ยานอนหลับ” ไม่ได้หมายถึงยาชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่เป็นชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มยาหลากหลายชนิดที่ส่งผลโดยตรงหรือมีผลข้างเคียง ทำให้เกิดการง่วงหรือทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ซึ่งยาแต่ละชนิดก็จะมีหลากหลายประเภทและมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันออกไป
ทำอย่างไรดี หากคืนนี้จำเป็นต้องพึ่ง “ยานอนหลับ”
หากคุณเป็นคนที่ต้องพึ่งยานอนหลับตามคำแนะนำของแพทย์ ขอแนะนำให้คุณใช้ยานอนหลับร่วมกับการปฏิบัติตัวตามสุขอนามัยการนอนที่ดี เช่น
- ควรเข้านอนให้ตรงเวลา เพื่อให้มีเวลาพักผ่อนเพียงต่อเป็นจำนวน 6-8 ชั่วโมง
- จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอนหลับที่ดี เช่น ไม่มีแสงหรือเสียงรบกวน ห้องนอนมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการนอน
- ควรจัดที่นอนและที่หมอนให้ได้มาตรฐาน ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน หรือดื่มร่วมกับยานอนหลับ
- หาวิธีผ่อนคลายความเครียดก่อนนอน
แนะนำให้คุณปฏิบัติตามนี้ไปเรื่อย ๆ ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวให้คุ้นชินกับการนอน และหลังจากนั้นคุณก็ค่อย ๆ ลดการทานยานอนหลับลง
เคล็ด (ไม่) ลับ นอนหลับสนิทแบบไม่พึ่ง “ยานอนหลับ”
การแก้ไขปัญหานอนไม่หลับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งยานอนหลับเสมอไป เพียงแค่คุณหาสาเหตุของการนอนไม่หลับให้เจอ แล้วแก้ไขให้ตรงสาเหตุ ก็ช่วยลดปัญหาการนอนไม่หลับได้ หากคุณไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เรามีคำแนะนำดี ๆ ในการสร้างสภาพวะการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพโดยไม่พึ่งยานอนหลับมาให้คุณได้ลองปฏิบัติตาม วิธีมีดังนี้
- สร้างพฤติกรรมการนอนที่ดี คือ ไม่นอนดึก ไม่อดนอนติดต่อกันบ่อยๆ เพราะจะทำให้คุณหลับยากมากขึ้น
- ควรจัดเวลานอนและเวลาตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อให้ร่างกายและสมองจดจำการนอน
- หากิจกรรมพิเศษทำก่อนนอน เช่น การนั่งสมาธิ หรือการฝึกการหายใจแบบ Box Breating ที่จะช่วยให้คุณคลายกังวล ทำให้นอนหลับสนิทได้ง่ายขึ้น
- จัดสรรสภาพแวดล้อมการนอนโดยรวมทั้งหมดให้น่านอน ไม่ควรใช้ห้องนอนเพื่อทำกิจกรรมอื่นนอกจากการนอน เพราะจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อห้องนอน และเมื่อถึงเวลานอนคุณก็จะไม่อยากนอนเอาได้
- ควบคุมเรื่องอาหารการกินก่อนนอน งดเว้นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และไม่ควรทานมื้อเย็นที่เป็นมื้อใหญ่มากเกินไป เพราะอาจเกิดกรดไหลย้อน ทำให้นอนไม่หลับได้
ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้คุณสามารถนอนหลับได้โดนไม่พึ่งยานอนหลับ อ่านเพิ่มเติมที่ 10 สาเหตุนอนไม่หลับและวิธีรักษา ปี 2022
หรือใช้ Dee-Nize ดีกว่ายานอนหลับ
กลับมานอนได้เอง สุขภาพดีขึ้น บอกลาความเบลอหลังตื่น เริ่มวันใหม่ด้วยความสดใส
สรุป
ยานอนหลับเป็นทางออกของคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ แต่ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้ เนื่องด้วยการทานติดต่อกันเป็นเวลานอนจะส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้มากกว่าที่คิด การใช้ยานอนหลับที่ถูกวิธีควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามสาระดี ๆ เกี่ยวกับสุขภาพและการนอนได้ที่เว็บไซต์
แหล่งที่มา
- บทความ ปัญหาการใช้ยานอนหลับ แก้โรคนอนไม่หลับ จาก แพทย์หญิงธัญวรรณ เพ็ชรน้อย โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
- บทความ ยานอนหลับและยาระงับประสาท จาก Schlaflabor, Klinik für Pneumologie, Universitätsspital Zürich
- คู่มือ การใช้ยาอย่างสมเหตุผล ตามบัญชียาหลักแห่งชาติ ยาที่ใช้ทางจิตเวชศาสตร์ จาก คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ และ คณะท างานผู้เชี่ยวชาญแห่งชาติด้านการคัดเลือกยา สาขาจิตเวชศาสตร์
- blog ยานอนหลับและสารช่วยการนอนหลับ วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ปีที่ 45 ฉบับที่ 1 มกราคม-มีนาคม 2543
-
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 10 แคปซูล
350 ฿Original price was: 350 ฿.290 ฿Current price is: 290 ฿. -
ฺBiotine X1 ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
690 ฿Original price was: 690 ฿.490 ฿Current price is: 490 ฿. -
ฺBiotine X2 ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
690 ฿Original price was: 690 ฿.490 ฿Current price is: 490 ฿. -
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
750 ฿Original price was: 750 ฿.590 ฿Current price is: 590 ฿. -
GLUCON สมุนไพรรวม ต้านเบาหวาน ขนาด 60 แคปซูล
820 ฿Original price was: 820 ฿.650 ฿Current price is: 650 ฿. -
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล + 10 แคปซูล
1,280 ฿Original price was: 1,280 ฿.745 ฿Current price is: 745 ฿. -
ฺBiotine X1 ขนาดบรรจุ 60 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
1,380 ฿Original price was: 1,380 ฿.890 ฿Current price is: 890 ฿. -
ฺBiotine X2 ขนาดบรรจุ 60 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
1,380 ฿Original price was: 1,380 ฿.890 ฿Current price is: 890 ฿. -
Dee-Nize ขนาดบรรจุ 60 แคปซูล
1,500 ฿Original price was: 1,500 ฿.1,060 ฿Current price is: 1,060 ฿. -
GLUCON สมุนไพรรวม ต้านเบาหวาน ขนาด 120 แคปซูล
1,640 ฿Original price was: 1,640 ฿.1,220 ฿Current price is: 1,220 ฿. -
ฺBiotine X1 ขนาดบรรจุ 120 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
2,760 ฿Original price was: 2,760 ฿.1,490 ฿Current price is: 1,490 ฿. -
ฺBiotine X2 ขนาดบรรจุ 120 แคปซูล เพิ่มผมหนา ลดผมร่วง
2,760 ฿Original price was: 2,760 ฿.1,490 ฿Current price is: 1,490 ฿.